ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีการแพทย์ยุคปัจจุบัน ช่วยให้มนุษย์มีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น แม้จะตกอยู่ในสภาพ "มนุษย์ผัก" ก็ตาม
คำว่า "ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ" เป็นพรวิเศษสุดที่มนุษย์ทุกคนคงอยากให้กลายเป็นจริง แต่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะร่างกายย่อมทรุดโทรมไปตามกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขาดการออกกำลังกายและถูกโรครุมเร้า
วิธีปฏิบัติตัวเพื่อรักษาชีวิตให้ยืนยาวอย่างแข็งแรงมีหลายรูปแบบ บางวิธียังเป็นเรื่องง่ายๆ ที่อาจมองข้ามไป แต่นักวิทยาศาสตร์ไม่ได้มองข้าม นิตยสารฟอร์บส์ ไปรวบรวมงานวิจัยเคล็ดลับยืดชีวิตมนุษย์มาเผยแพร่ และถอดความพากษ์ไทยได้นับจากบรรทัดต่อไปนี้1. อย่านอนกินบ้านกินเมืองวารสารจิตเวชศาสตร์ทั่วไป ในสหรัฐอเมริกา ตีพิมพ์ผลการศึกษาที่พบว่า คนที่นอนเกินคืนละ 8 ชั่วโมงต่อวันมีความเสี่ยงเสียชีวิตเร็วกว่าคนอื่น อย่างไรก็ตาม คนที่นอนน้อยกว่าคืนละ 4 ชั่วโมงก็มีโอกาสตายเร็วเช่นกัน
ทางออกดีที่สุด คือ นอนพอดีๆ วันละ 6-7 ชั่วโมง เพราะพบว่าคนกลุ่มนี้มีอายุยืนยาวที่สุด
2. มองโลกในแง่ดีนักวิจัยประจำเมโย คลินิก เมืองโรชสเตอร์ รัฐมินเนโซตา สหรัฐ พบว่า "คนมองโลกในแง่ดี" มีแนวโน้มมีชีวิตยืนยาวกว่า "คนมองโลกแง่ร้าย" ถึง 50 เปอร์เซ็นต์
ข้อมูลรองรับสมมติฐานดังกล่าวก็คือ คนมองโลกแง่ดีมีความเครียดน้อยกว่าคนทั่วไป ไม่ปล่อยให้สุขภาพจิตและร่างกายของตนเองตกต่ำยามต้องเผชิญกับปัญหา นอกจากนั้น ยังมีความดันโลหิตต่ำกว่าพวกชอบขวางโลกอีกด้วย
3. "เซ็กซ์เซอร์ไซส์"เซ็กซ์ หรือ การมีเพศสัมพันธ์เป็นการออกกำลังที่ดีชนิดหนึ่ง (ถ้ามีความพร้อม)
ถ้าเป็นเซ็กซ์ที่เต็มไปด้วยความรักก็จะยิ่งสร้างความผูกพันระหว่างคนสองคน ทำให้ชีวิตมีความสุข ไม่เครียด โอกาสป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจก็จะลดลง
วารสารสมาคมการแพทย์อเมริกา ฉบับเมษายน ปี 2547 รายงานไว้ว่า สำหรับคุณผู้ชาย การหลั่งน้ำอสุจิอย่างสม่ำเสมอช่วยลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก
4. สัตว์เลี้ยงเพื่อนใจดร.เอริกา ฟรายด์แมน นักวิจัยอเมริกัน ศึกษาพบว่า การเลี้ยง "สัตว์เลี้ยง" ส่งผลดีทางจิตวิทยาต่อคนเราหลายประการ
เช่น ช่วยคลายความโดดเดี่ยว ป้องกันอาการซึมเศร้า ช่วยเรียกเสียงหัวเราะ และบังคับให้เดินออกกำลังบ่อยขึ้นไปในตัว นอกจากนั้น คนที่มีสัตว์เลี้ยงจะเครียดน้อยกว่าคนที่ไม่มี
5. เลิกสูบบุหรี่ ข้อนี้คงแทบไม่ต้องบอกกันแล้วว่าการสูบบุหรี่ในระยะยาวส่งผลเสียต่อสุขภาพขนาดไหน
สิงห์อมควันมักอ้างว่าไหนๆ การลงทุนสูบมาตั้งหลายสิบปีก็สูบต่อไปเถอะ เพราะคงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว
แต่ผลวิจัยชี้ว่า ถึงแม้คุณจะอยู่ในวัยกลางคน แต่ถ้าเลิกบุหรี่เสียตั้งแต่วันนี้ช่วยให้ความเสี่ยงป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากลดลง เช่นเดียวกับมะเร็งระบบทางเดินหายใจ
6. หัดพักผ่อน"ชิลล์ชิลล์" ผลการศึกษาของวิทยาลัยการแพทย์ มหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ ระบุว่า คนขี้โมโห ฉุนเฉียว โกรธง่าย เอะอะไรก็เครียด มีโอกาสป่วยเป็นโรคหัวใจก่อนวัยอันควรถึง 3 เท่า และเสี่ยงหัวใจวายตายก่อนอายุ 55 ปี
วิธีแก้ปัญหานี้ทำได้ง่ายๆ อย่าแบกโลกไว้บนบ่าจนทำให้ตัวเองรู้สึกย่ำแย่เกินไป หัดไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจบ้าง
ที่สำคัญอย่าลืมคาถา "ยิ้มสู้โลก" เพราะขณะคุณหัวเราะนั้นระดับฮอร์โมนความเครียด เช่น คอร์ติซอลและอะดรีนาลีน ในร่างกายจะลดลง และปล่อยสารแห่งความสุขอย่าง "เอนโดรฟีน" ออกมาแทน ทำให้รู้สึกสบายและยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
7. อาหารต้านอนุมูลอิสระ การรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ คือ หลักสำคัญในการดูแลสุขภาพอยู่แล้ว
แต่ควรเพิ่มการทานอาหารที่มี "สารต้านอนุมูลอิสระ" ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ร่างกายเสื่อมสภาพเร็วเกินไป
สารต้านอนุมูลอิสระพบมากในอบเชย พืชตระกูลถั่วบางชนิด ได้แก่ ถั่วแดง ถั่วเหลือง เมล็ดทานตะวัน งา ข้าวโพด ข้าวกล้อง ฝรั่ง ส้ม มะขามป้อม ส้ม ผลไม้จำพวกบลูเบอร์รี่ ผลเบอร์รี่ มะเขือเทศ เกรฟฟรุต
8. วิวาห์พาสุข"วิวาห์พาสุข" ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแต่งงานกับคนรวยจะได้มีเงินใช้เยอะๆ แต่ต้องการบอกว่าเวลาเลือกคู่ครองให้ลองดูเสียหน่อยว่า ญาติๆ ของคู่สมรส ไม่ว่าจะเป็นปู่ ย่า ตา ยาย ยังมีชีวิตอยู่ดีหรือไม่
ถ้ายังอยู่ก็ตีความได้ว่าทั้งคู่ของคุณและลูกที่กำลังจะเกิดมามีแนวโน้มอายุยืนเหมือนกัน ตามข้อมูลจากวารสารแมคคานิซึ่มส์ ออฟ เอจจิ้ง แอนด์ ดีเวลล็อปเมนต์ ในสหรัฐ ตีพิมพ์งานวิจัยที่ระบุว่า "ความมีอายุยืน" นั้นส่งผ่านกันได้ทางพันธุกรรมไปประมาณ 3 ชั่วอายุคน
9. "อ้วน"อันตรายดร.เดวิด เฟน ผู้อำนวยการการแพทย์ ศูนย์อายุยืนยาวพรินซ์ตัน ในนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐ กล่าวว่า ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไป หรือเป็นโรคอ้วนก็เปรียบได้กับกำลังมีระเบิดเวลาอยู่ในตัว ที่พร้อมจะทำให้เจ้าของร่างกายล้มป่วยด้วยสารพัดโรคตลอดเวลา ทั้งโรคหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน ฯลฯ
วิธีลดความอ้วนที่ดีที่สุด คือ ลดปริมาณการบริโภคอาหาร แต่ควบคุมไม่ให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็น ถ้าไม่ลดอาหาร ถึงจะออกกำลังกายเท่าไหร่น้ำหนักจะลงยากมาก
10. พลังสมาธิ
ผลการศึกษาของดร.วู้ดสัน เมอร์เรลล์ แห่งโรงพยาบาลเบธอิสราเอล นครนิวยอร์ก สหรัฐ พบว่า การนั่งสมาธิเป็นเครื่องมือที่มีอานุภาพสูงสุดในการดูแลสุขภาพทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
การนั่งสมาธิเพียง 15 นาทีจะส่งผลดีเท่ากับการนอนหลับลึกกว่า 1 ชั่วโมง ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย ลดความเครียด มีจิตใจแจ่มใสไม่วอกแวกง่ายๆ