เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญด้านเวิร์ลด์ ไวด์ เว็บ (www.) หรือผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตจากทั่วโลก เดินทางไปยังนครเอดินบะระ ประเทศอังกฤษ เพื่อเข้าร่วมประชุม www2006 ภายใต้หัวข้อคลื่นลูกใหม่ของเว็บ
เป้าหมายการประชุมก็เพื่อประเมินอนาคตของอินเตอร์เน็ตว่าจะก้าวไปสู่ทิศทางใด
ไนเจล แชดโบลต์ ประธานที่ประชุมและประธานสมาคมคอมพิวเตอร์อังกฤษ สรุปข้อใหญ่ใจความจากงานสัมมนาดังกล่าว ไว้ว่าประเด็นหลักๆ ที่มีการหยิบยกมาพูดคุยมีอยู่ 3-4 เรื่องด้วยกัน
เรื่องแรก, เห็นตรงกันกับที่ เดวิด บราวน์ ประธานบริษัทโมโตโรลา ประเทศอังกฤษ แสดงความเชื่อมั่น ว่า ความหมายของ โทรศัพท์มือถือ ที่เราเข้าใจกันในทุกวันนี้จะหายไปในอนาคตอันใกล้ ประสิทธิภาพในการติดต่อสื่อสารของมือถือจะกลายเป็นเรื่องรอง แต่ส่วนสำคัญที่จะเข้ามาแทนที่ก็คือ
ความสามารถในการทำหน้าที่เป็นคอมพิวเตอร์พกพาเคลื่อนที่ ซึ่งเชื่อมต่อสัญญาณไร้สายเข้ากับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง(อินเตอร์เน็ต บรอดแบนด์)
คาดว่าอีกไม่กี่ปีจากนี้ ราคาของมือถือที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับโลกอินเตอร์เน็ตได้ จะมีราคาไม่เกินเครื่องละ 15 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 570 บาท ส่งผลให้ประชากรโลกหลายพันล้านคนเข้าถึงเทคโนโลยีเวิร์ลด์ ไวด์ เว็บ ได้ทุกที่ทุกเวลา
ที่ประชุมเดียวกันนี้ยังพูดถึงกระแสการเติบโตของ web 2.0 และ semantic web อีกด้วย
สู่ยุค Web 2.0
Web 2.0 เป็นคำเรียกย่อๆ ของกระแสเปลี่ยนผ่านจากรูปแบบการใช้งานอินเตอร์เน็ตแบบเดิมๆ ใน ยุคที่ 1 ซึ่งหมายถึงการที่ฝ่ายผู้ผลิตคอนเทนต์ (เว็บไซต์) กับ ฝ่ายคนที่เข้ามาค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์ แยกขาดออกจากกัน
แต่เมื่อเราเข้าสู่การใช้งาน อินเตอร์เน็ตยุคที่ 2 หรือ Web 2.0 นั่นหมายความว่า ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตทุกคน ไม่ว่าจะฝ่ายใดก็ตาม ต่างเข้ามาร่วมกันทำหน้าที่แบ่งปัน-แลกเปลี่ยน-เชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารถึงกันและกัน
ถ้าจะอธิบายความหมายของ Web 2.0 ให้มองเห็นภาพ ก็คือ กระแสความนิยมของ บล็อกส่วนบุคคล ที่เพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อยๆ และสร้างเครือข่ายโยงใยกันไปทั่วโลกในหมู่คนที่สนใจในเรื่องใกล้ๆ กัน จนกลายเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ขนาดยักษ์ หรือเว็บไซต์มาแรงอย่าง wikipedia.org สารานุกรมออนไลน์ที่เปิดเสรีให้คนทั่วโลกเข้าไปช่วยกันปรับปรุงข้อมูล
นอกจากนั้นเว็บไซต์ประเภทแชร์และจัดหมวดหมู่รูปภาพอย่าง flickr.com รวมถึงเทคโนโลยีกระจายเสียงออนไลน์พ็อดคาสต์ ก็เป็นหนึ่งในปรากฎการณ์ Web 2.0 เช่นกัน
ที่ประชุม www2006 เชื่อว่าสิ่งสำคัญที่จะเกิดขึ้นในยุค Web 2.0 คือ ความรุ่งเรืองของวิทยาศาสตร์อิเล็กทรอนิกส์ (e-science) ซึ่งหมายความว่า งานวิจัยในอนาคตจะสำเร็จลุล่วง ได้ผลลัพธ์ดีและเร็วกว่าในปัจจุบัน เพราะนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกสามารถเข้ามาทำงานวิจัยร่วมกันผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลสาธารณะที่เผยแพร่อยู่ในอินเตอร์เน็ต
Semantic Web : เว็บแสนรู้อีกประเด็นที่มีการหยิบยกมาพูดกันในวงประชุมผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต www2006 ได้แก่ เทคโนโลยี Semantic Web (ซีแมนทิค เว็บ) หรือ เว็บไซต์ที่มีความหมาย
เทคโนโลยีนี้ค่อยๆ พัฒนากันมาได้ประมาณ 5-6 ปีแล้ว แต่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเท่าไหร่นัก
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม www2006 เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ปฏิวัติรูปแบบการใช้งานโครงข่ายอินเตอร์เน็ตในอนาคต
ในที่นี้เราอาจเรียก Semantic Web เป็นภาษาแบบสั้นๆ เข้าใจง่าย ว่า เว็บไซต์ฉลาด
สาเหตุเพราะเว็บประเภทนี้จะมีการเขียนและฝังชุดคำสั่ง (tags) เอาไว้บนเว็บ ซึ่งมีคุณสมบัติทำให้ คอมพิวเตอร์ สามารถเข้าใจข้อมูลที่ปรากฎอยู่ในเว็บนั้นๆ ว่าพูดถึงอะไรอยู่
ยกตัวอย่างเช่น การใช้เว็บในปัจจุบัน..คนจะต้องเป็นคนสั่งให้คอมพิวเตอร์ท่องไปตามเว็บต่างๆ ตัวคอมพิวเตอร์เองจะเที่ยวไปสืบค้นข้อมูลด้วยตัวเองไม่ได้ แต่สำหรับเว็บที่พัฒนาไปสู่เว็บฉลาดนั้น เพียงแค่เรากรอกคำสั่งลงไปเพียงครั้งเดียว
เช่น ถ้าต้องการค้นหาข้อมูลรถ รุ่น "เอ" เว็บฉลาด ก็จะส่งข้อมูลไปให้คอมพิวเตอร์รับรู้ทันที ว่า ขณะนี้ผู้ใช้กำลังต้องการหาข้อมูลเรื่องรถรุ่นเอ
จากนั้นคอมพิวเตอร์ก็จะค้นหาเว็บฉลาดที่อยู่ในหมวดใกล้เคียงกันกับรถรุ่นดังกล่าวมากที่สุด ขึ้นมาให้ผู้ใช้เลือกดูโดยอัตโนมัติ
ไม่ว่าจะเป็นเว็บประวัติรถรุ่นเอ รวมถึงเว็บเต๊นท์ขายรถ-เว็บอู่ซ่อมรถ-เว็บร้านขายอะไหล่รถรุ่นเอ ที่มีที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน ฯลฯ
การมาถึงของเว็บฉลาด จะทำให้บทบาทในการจัดระเบียบข้อมูลในอินเตอร์เน็ตของเว็บไซต์เพื่อการค้นหา (เสิร์ชเอนจิ้น) ยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย เช่น ยาฮู! และ กูเกิ้ล ลดลง ซึ่งหมายความว่า รายได้ ของบรรดาเสิร์ชเอนจิ้นทั่วโลกก็จะลดลงเช่นกันครับ!