พิษสงใหม่"ยาอี" ทำลายภูมิคุ้มกันร่างกาย
ลองขึ้นชื่อว่า "ยาเสพติด" ไม่มียาตัวไหนให้ประโยชน์กับผู้เสพอย่างแน่นอน ยังจำชื่อ "ยาอี" กันได้หรือไม่ ยาตัวนี้ระบาดหนักในสังคมไทยในหมู่ "ลูกกลุ่มคนผู้มีอันจะกิน"
ยาอีจัดเป็นสารอนุพันธ์ตัวหนึ่งของ "ยาบ้า" มีชื่อย่อทางเคมีว่าสาร "MDMA" ในอดีตนักเคมีทดลองสังเคราะห์ขึ้นมาโดยหวังว่าอาจมีประโยชน์ทางการแพทย์
แต่ผลกลับตาลปัตรเพราะส่งผลต่อสภาพจิตใจและอารมณ์ของผู้ใช้ยามากเกินไปจึงต้องยกเลิก จนกระทั่งมีคนลักลอบนำมาพัฒนาขายระบาดไปทั่วโลก
โทษของยาอี รวมทั้งยาตัวอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกัน เช่น ยาเลิฟนั้น เท่าที่ทางการพยายามประกาศให้เยาวชนและผู้เสพระวังตัวเอาไว้ให้ดีก็คือ...เสี่ยงต่ออาการหัวใจวาย ไตวาย ร่างกายขาดน้ำ ช็อก หมดสติ เลือดออกในสมอง
ส่วนผลลัพธ์เลวร้ายระยะยาว สารเคมีจากยาอีจะเข้าไปทำลายระบบประสาท ทำลายเซลล์สมองส่วนที่ทำหน้าที่หลั่งสาร "เซโรโทนิน" ทำให้ผู้เสพป่วยด้วยอาการโรคจึตซึมเศร้า นอนไม่หลับ และเกิดภาวะอยากฆ่าตัวตาย
ล่าสุด หนังสือพิมพ์การ์เดียน ประเทศอังกฤษ รายงานว่า "โธมัส คอนเนอร์" นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยทรินิตี้คอลเลจ กรุงดับลิน ศึกษาค้นพบพิษภัยยาอีเพิ่มเติมขึ้นอีก นั่นคือ ยาอีนั้นจะมีฤทธิ์เข้าไปกด รวมทั้งทำลายระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย
ปรากฏการณ์ทางสังคมที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง คือ ทุกวันนี้มีวัยรุ่น-คนหนุ่มสาวในอังกฤษเสพยาอีกันเกลื่อนกลาด
คนกลุ่มนี้จึงจะค่อยๆ กลายเป็นคนสุขภาพอ่อนแออย่างรุนแรง เนื่องจากร่างกายมีโอกาสติดเชื้อโรค-เชื้อไวรัสสูงกว่าคนปกติ ถ้าปล่อยให้ปัญหาเรื้อรังต่อไปคนรุ่นต่อไปๆ ของอังกฤษก็จะเต็มไปด้วยคนไร้ประสิทธิภาพ
การเสพยาอาจสนุกชั่วครู่ชั่วยาม แต่ปัญหาที่ตามมามันบั่นทอนทั้งชีวิตของตัวเอง พ่อแม่ และไปไกลถึงระดับประเทศชาติ
0 Comments:
Post a Comment
<< Home