โลกอินเตอร์เน็ต ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ
มาถึงปัจจุบันก็คงต้องยอมรับความจริงกันแล้ว ว่า
เนื้อหาสาระในโลกอินเตอร์เน็ตนั้นมีเรื่องชั่วๆ มากกว่าเรื่องดีๆ
ต้องอย่าลืมว่าแรงขับเคลื่อนสำคัญของเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตในวันนี้
คือ การขายภาพ-วิดีโอลามกอนาจาร
ซึ่งก็เหมือนกับเมื่อสมัยที่ "วิดีโอลามก" เคยส่งผล ทำให้ยอดขายเครื่องเล่นวิดีโอขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเมื่อหลายสิบปีก่อน
ในส่วนของภาครัฐ...
เมื่อขึ้นชื่อว่า "รัฐบาล" ก็มีหน้าที่ที่จะต้องปราบสื่ออนาจารเหล่านี้ให้หมดไป
ล่าสุด รัฐบาลคอมมิวนิสต์จีนเพิ่งสวมบทโหด
ประกาศมาตรการกำราบ "ความชั่วร้ายในโลกไซเบอร์-อินเตอร์เน็ต" อย่างขึงขังจริงจังมากเลยทีเดียว
ขณะนี้ จีนมีสถิติผู้ใช้อินเตอร์เน็ต 110 ล้านราย
ถือว่ามากเป็นอันดับ 1 รองจากสหรัฐอเมริกาที่มี 111 ล้านราย
ในทัศนะของรัฐบาลจีนเห็น ว่า
อินเตอร์เน็ตมีประโยชน์ในแง่ของการแพร่ภาพการศึกษา
กับ การทำธุรกิจ
แต่ขณะเดียวกันก็เป็นดาบสองคม
ทำให้กลุ่มประชาชนที่ต่อต้านการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ใช้เป็นเครื่องมือสำหรับต่อต้านรัฐบาล
เพื่อควบคุมการไหลบ่าของข้อมูลข่าวสารนในโลกไซเบอร์
รัฐบาลจีนจึงสั่งให้กระทรวงอุตสาหกรรมสารสนเทศ
คอยดูแลการแสดงความคิดเห็นของประชาชนผ่านทางเว็บไซต์ เว็บบอร์ด และบล็อก ต่างๆ
ในส่วนของการควบคุมพฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ตในกลุ่มเยาวชน
รัฐบาลจีนเพ่งเล็งไปที่การคุมเข้มร้าน "อินเตอร์เน็ต คาเฟ่" เป็นหลัก
เมื่อ 3 วันก่อนหน้านี้ กระทรวงวัฒนธรรมจีนออกคำสั่ง "เคอร์ฟิว" ห้ามร้านอินเตอร์เน็ต คาเฟ่ รับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าไปใช้บริการตอนกลางคืนโดยเด็ดขาด
นอกจากนี้ ระหว่างช่วงเวลากลางวัน อินเตอร์เน็ต คาเฟ่ แต่ละแห่ง ยังต้องจำกัดจำนวนลูกค้าอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่ให้เข้าไปอยู่ในร้านพร้อมๆ กันเกิน 2-3 คน เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กๆ ไปซ่องสุม
ถ้าร้านไหนฝ่าฝืนจะต้องรับโทษ ถูกถอนใบอนุญาต หรือ ปิดกิจการไปจนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น
ดูๆ แล้ว มาตรการของรัฐบาลจีนนั่นโหด-หินยิ่งกว่าบ้านเราหลายเท่า
แต่ถึงเวลาปฏิบัติจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าจะได้ผลขนาดไหน
เพราะสำหรับกลุ่มวัยรุ่นเยาวชนทั้งหลายนั้น
เรื่องไหนที่ถูกห้าม ก็เหมือนกับการยุให้อยากทำ อยากรู้ อยากเห็นดีๆ นี่เอง
บางทีการบอกกับเด็กๆ ตรงๆ ว่า อินเตอร์เน็ตมีทั้งเนื้อหาที่ดีและไม่ดี
ถ้าสงสัยอะไรให้ถามผู้ใหญ่
อาจช่วยสร้างภูมิคุ้มกันที่แน่นหนากว่าการห้ามตะพึดตะพือเพียงอย่างเดียว!?!
0 Comments:
Post a Comment
<< Home