เมื่อ"มังกรดิจิตอล" เปิดศึกเทคโนโลยี!
คนที่ไม่เคยไปเยือนถิ่นมังกร "จีน" ในยุคนี้ อาจมีจินตภาพเดิมๆ ว่าเป็นสังคมคอมมูนแบบคอมมิวนิสต์
ชาวบ้านปลูกบ้านก่ออิฐสีแดง กระจายกันอยู่เป็นหย่อมๆ ทำไร่ไถนาไปตามเรื่อง
สภาพข้างต้นนี้ยังมีอยู่ครับ แต่สำหรับหัวเมือง เมืองท่า เมืองมหานคร และเมืองปริมณฑล ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว
ตึกรามบ้านช่องแปรสภาพเข้าสู่ยุคทุนนิยมเต็มสูบ แม้ชนชั้นปกครองจะเป็นรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์ก็ตาม
ความยิ่งใหญ่เกรียงไกรในอดีตที่ชาวจีนภูมิใจกันมาก คือ เป็นผู้คิดค้นวิทยาการล้ำสมัยกว่าใคร
เช่น อุปกรณ์ตรวจวัดแผ่นดินไหว การทำแผนที่โลก การคิดค้นกระดาษ
จนถึงยุคดิจิตอล ปี 2549 จีนก็ยังก้าวหน้าไปอีกขั้นด้วยการส่งมนุษย์นั่งยานอวกาศไปนอกโลก
พร้อมกันนั้นก็วางแผนส่งมนุษย์อวกาศจีนขึ้นไปย่ำอวกาศอีกเป็นระยะๆ รวมทั้งส่งคนจีนไปเหยียบดวงจันทร์ และสร้างสถานีอวกาศสัญชาติมังกร
ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ลั่นวาจาแสดงจุดยืนชัดเจนว่า ยุทธศาสตร์พัฒนาจีน 5 ปีถัดจากนี้จะมุ่งเน้นไปที่พัฒนาการด้านวิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี เป็นหลัก
เพราะถ้าไม่ทำเช่นนั้น จีนจะต้องมีอันตกขบวนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง ซึ่งนับวันยิ่งสำคัญมากขึ้นทุกขณะ
ล่าสุด คณะรัฐมนตรีจีนจึงเร่งผลักดันนโยบายของปธน.หู ด้วยการออกโครงร่างนโยบาย "แผนพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระยะกลางและระยะยาว" ตั้งเป้าว่า ในปี 2563 เม็ดเงินสำหรับการอุดหนุนงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ต้องเพิ่มเป็นร้อยละ 2.5 ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (จีพีดี)
ภายใต้แผนพัฒนาฉบับนี้ รัฐบาลจีนกับภาคเอกชนจะร่วมกันทุ่มเงินวิจัยให้กับเทคโนโลยี 16 กลุ่ม
อาทิ ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ เซมิคอนดักเตอร์ ระบบโทรคมนาคม พลังงานนิวเคลียร์ เมล็ดพันธุ์พืชตัดต่อพันธุกรรม (จีเอ็มโอ) และการสำรวจอวกาศ
การขยับตัวของ "มังกรดิจิตอล" ในครั้งนี้ ทำให้ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ผู้นำมหาอำนาจสหรัฐอเมริกา ถึงกับต้องประกาศแผนพัฒนาการศึกษาด้านเทคโนโลยีของคนอเมริกันอย่างเร่งด่วน เพื่อเตรียมต่อกรกับจีน
ใครที่เคยคิดว่าจีนมีดีแค่ผลิต "ของโหลราคาถูก" คงต้องเปลี่ยนทัศนคติกันใหม่ได้แล้ว!
0 Comments:
Post a Comment
<< Home