Monday, January 22, 2007

จุดเด่น-จุดด้อยมือถือ'ไอโฟน'


ขึ้นชื่อว่า "สตีฟ จ๊อบส์" บิดา "แอปเปิล คอมพิวเตอร์" เวลาทำอะไรต้องออกแอ็กชั่น ยิ่งใหญ่ ล้ำหน้ากว่าชาวบ้านเสมอ

ปัจจุบัน "แอปเปิล คอมพิวเตอร์" เปลี่ยนชื่อเป็น "แอปเปิล อิงก์" เพื่อล้างภาพจากในอดีตที่คนมองว่าเชี่ยวชาญเฉพาะการพัฒนาคอมพิวเตอร์ ให้กลายมาเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในสินค้าหมวดอิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่นๆ

และสินค้า ซึ่งเปรียบเสมือนเป็น "พระเอก" ตัวแรกของแอปเปิล อิงก์ ก็คือ

โทรศัพท์มือถือหน้าตาชวนให้เสียเงินซื้อ รุ่น ไอโฟน

จ๊อบส์เปิดตัวไอโฟนในงานแม็คเวิลด์ นครซานฟรานซิสโก เมื่อเร็วๆ นี้ เรียกเสียงฮือฮาจากสาวก "ลัทธิแอปเปิล" รวมถึงสื่อมวลชนสายไอทีทั่วโลก

มือถือไอโฟนมีคุณสมบัติการทำงาน 3 ประสาน...

1. เป็นมือถือสมาร์ทโฟน

2. เป็นเครื่องเล่นเพลงดิจิตอลไอพ็อด

3. เป็นเครื่องมือสื่อสาร ใช้เชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (อินเตอร์เน็ต คอมมิวนิเคชั่นส์ ดีไวซ์)

สเป็กและฟังก์ชั่นการทำงานของไอโฟนนั้นจุดเด่นประกอบด้วย

1. หน้าจอสั่งงานแบบสัมผัส (ทัชสกรีน) ขนาดใหญ่ 3.5 นิ้ว แสดงภาพด้วยความละเอียด 320x480x160 พิกเซล

2. หน่วยความจำมี 2 รุ่นให้เลือก 4 GB ราคา 499 เหรียญสหรัฐ กับ 8 GB 599 เหรียญ

3. ระบบเชื่อมต่อข้อมูลผ่านเครือข่ายด้วยเทคโนโลยี 2.5 จี (EDGE)

4. มีเซ็นเซอร์ ปรับการแสดงภาพแนวตั้ง-แนวนอนโดยอัตโนมัติ

5. ระบบวิชวล วอยซ์เมล์ เลือกฟังเสียงฝากในเมล์บ็อกซ์โดยไม่ต้องเรียงลำดับ

6. กล้อง 2.0 เมกะพิกเซล และระบบเชื่อมต่อไร้สายบลูทูธและไว-ไฟ

ไอโฟนของจริงจะวางตลาดเฉพาะในสหรัฐช่วงเดือนมิถุนายน 2550 ส่วนเอเชียต้องรอปีหน้า

สำหรับ "จุดด้อย" ที่สื่อฝรั่งด้วยกันเค้าถลกหนังไอโฟนออกมาหลายประเด็น

ข้อแรก การจะใช้ไอโฟนได้ก็เหมือนมัดมือชกกลายๆ

เพราะต้องสมัครเป็นลูกค้าใช้บริการเครือข่ายมือถือกับบริษัทซิงกูลาร์ เป็นเวลา 2 ปีเต็ม (ในอนาคตบริษัทนี้จะไปรวมกับเอทีแอนด์ที)

ข้อต่อมา ไอโฟนที่จะออกวางตลาดในสหรัฐอเมริกาช่วงเดือนมิถุนายนนั้น ใช้เทคโนโลยี 2.5 จี

ปัจจุบัน นักวิจารณ์มือถือหลายสำนักก็ยังงงถ้วนหน้าว่า เหตุใด "สตีฟ จ๊อบส์" ผู้บริหารแอปเปิ้ลจึงไม่พัฒนาไอโฟนให้ใช้ได้กับมาตรการการทำงานเครือข่ายมือถือยุคที่ 3 หรือ "3 จี" ซึ่งรองรับระบบการทำงานรูปแบบไฟล์มัลติมีเดียเหนือชั้นกว่า 2.5 จี

อีกประเด็นหนึ่ง คือ เรื่องของ "หน้าจอทัชสกรีน"

ที่ผ่านมา...หน้าของเครื่องเล่นไฟล์ดิจิตอล "ไอพ็อด" ของแอปเปิ้ล มีปัญหาเรื่องถูกขีดข่วนเป็นรอยง่าย

จึงมีคนตั้งข้อสงสัยว่า ในเมื่อจอไอโฟนก็ดึงมาจากไอพ็อด จะเกิดปัญหาเดียวกันนี้หรือไม่ ซึ่งยังไม่มีใครตอบได้ เพราะทางแอปเปิ้ลไม่ได้แจกตัวอย่างเครื่องไอโฟนมาให้นักวิจารณ์ทดลองใช้

จุดอ่อนอีกประการเป็นเรื่องของ "แบตเตอรี่" ที่ทางแอปเปิ้ลฝังติดเอาไว้ในเครื่องไอโฟนเลย

ลูกค้าถอดเปลี่ยนเองไม่ได้

เวลาเสียขึ้นมาต้องส่งซ่อมศูนย์สถานเดียว ทำให้ช่วงนั้นจะไม่มีโทรศัพท์ใช้

อย่างไรก็ตาม เหมือนกับที่บอกไว้เมื่อวาน นั่นคือ หน้าตาของเครื่องไอโฟนถือว่าน่าจะ "โดน" ใจตลาด

แนวๆ ว่า แค่ซื้อมาถือไว้เล่นๆ ก็โก้ตายชัก ส่วนจะมีมือถือคุณภาพพอๆ กันแต่ราคาถูกกว่าไอโฟนก็ไม่เป็นไร

มีกะตังค์เสียอย่างใครจะทำไมล่ะครับ!

0 Comments:

Post a Comment

<< Home